ห้องที่ ๒๖ : ขุนวิจิตรวรสาสน์


          วายุบุตรกราบบาทไท้ทูลลา จรแฮ
สู่บุตรพระสุริยากล่าวถ้อย
ยอเกียรดิพระจักราเรืองฤทธิ
บเนิ่นนำน้าคล้อยเคลื่อนเฝ้าบาทบงษุ์
          ถึงถวายอัญชุลิตน้อมประนตบาท
จึ่งพระตรีภูวนารถท่านพร้อง
ดูกรบุตรภาณุมาศมีเหตุ ใดฤๅ
จึ่งมละนิเวศน์ต้องอยู่ร้างแรมไพร
          สุครีพทูลแต่ดั้งเดิมที
กากาจกับทรพีรบร้า
ผิดนัดปากถ้ำมณีข้าผนึก เสียนอ
พี่โกรธขับไล่ข้าจากด้าวเนาพนานต์
          คาบหนึ่งข้าบาทได้ชลอผา หลวงแฮ
ความชอบพระอิศราโปรดเกล้า
รางวันวิเชียรดาเรศแก่ ข้านอ
กากาจเกียจกันเคล้าคู่ข้าเคียงถนอม
          เสียสัตย์ถูกสาบเบื้องบทมาลย์
ควรพระจักประหารชีพมล้าง
ตรัสว่าจุ่งคิดการไปล่อ มาเทิญ
เราจะสอบคำอ้างเหตุดั้งเดิมดู
          สุครีพทูลตอบไท้ธิบดี
อันจะสู้พาลียากล้ำ
ได้พรพระอิศรมีฤทธิเลื่อง โลกย์แฮ
ใครรบเสียแรงก้ำกึ่งแพ้ไภยตัว
          พระเหนสุครีพท้อทางยุทธ นาแฮ
ตระบัดพระทรงครุธท่านพร้อง
จักสรงเทพยอาวุธรินรด ให้นา
สามรรถบำบัดป้องปิดร้ายไภยบร
          ตรัสพลางแผลงเดชด้วยฤทธิรอน
สี่พระหัดถ์ทรงศรเหนี่ยวน้าว
แผลงเปนสุระจันทรดาเรศ รายแฮ
ไพโรจเรืองจรัสด้าวเดชด้วยดาลแสดง
          ทั้งสองพานเรศรได้เหนตระหนัก นรายน์แฮ
วายุบุตรทูลพระจักกฤษณแก้ว
สองน้าจะโหมหักหาญต่อ กันนา
สุดคิดข้าทูลแล้วหลีกลี้ลาจร
          สุครีพทูลท่านไท้ธิบดินทร์
เชิญสู่บุรขีดขินเฃตรด้าว
พระชวนอนุชลินลาลาศ มานา
สุครีพรีบนำท้าวมุ่งเมื้อมาเมือง
          ถึงประทับยับยั้งร่มนิโครธา
สุครีพบังคมลาบาทไท้
พระสรงเทพย์สาตราเสร็จรด กระบี่แฮ
ออกโอฐอวยพรให้ฤทธิร้าเรืองณรงค์
          สุครีพลาเลื่อนขึ้นเวหาศ เหินแฮ
ลอยลิ่วตรงปราสาทเรียกร้อง
เหวย ๆ หน่อเทวราชเร่งออก มาเฮย
ตัวท่านวันนี้ต้องมอดม้วยมฤตยู
          พาลีดาลเดือดได้ยินอนุช เรียกนา
จับพระขรรคาวุธวิ่งคว้าง
ดาราวิเชียรฉุดช้าก่อน พระเอย
เหนจักมีพวกอ้างจึ่งกล้าท้าณรงค์
          พาลีตอบนาฎน้องนฤมล พี่เอย
ฤๅย่านอ้ายทรชนเช่นนี้
แสนโกฎิ์สมุทคนจักช่วย มันนา
จักฆ่าบให้ลี้หลีกพ้นคมขรรค์
          ตรัสพลางรีบเผ่นขึ้นรณรงค์
สองจับสัปรยุทธยงยวดแกล้ว
จวบพระกฤษณุบงบชัด ตัวนา
จับธะนูน้าวแล้วเงือดเงื้องงฉงน
          สุครีพยุทธเพลี่ยงแพ้รำบาน
กากาจถาโถมทยานจับได้
จักฆ่าคิดสงสารอนุชร่วม ครรภ์แฮ
ขว้างสู่จักรวาฬไซ้เสรจแล้วมาเมือง
          สุริยบุตรกลับโกรธพ้อพระราม ไฉนเฮย
ลวงฬ่อเราสงครามเกือบม้วย
จักรรัตน์ตรัสตอบตามแคลงเคลือบ ตัวนา
สุดที่สังเกตด้วยพี่น้องลกลกัน
          ตรัสพลางฉีกผ้าผูกกรกระบินทร์
สุครีพคมลาลินลาศเต้า
จรถั่นถับขีดขินขันยุทธ บองเอย
กากาจยินอนุชเร้าเรียกร้ารณรงค์
          ออกจากปราสาทขึ้นอำพร
สองต่อยุทธราญรอนฤทธิ์ห้าว
จวบองค์พระทรงศรศรพาด เพ่งนา
บงกระบี่ถนัดน้าวเหนี่ยวโน้มธนูแผลง
          ศรแสดงแผลงเดชด้วยฤทธี
จรจรตอกพาลีจับไว้
โลดลงสู่ปัถพีร้องแผด เสียงแฮ
เหวยชฎิลโหตไร้ชั่วช้าสาธารณ์
          ควรฤๅเราพี่น้องผิดกัน
ใช่กิจของนักธรรม์ถ่อยนี้
มาพลอยฆาฏชีวันเราเหตุ ใดนา
บวชบอายบาปลี้ลอบล้างเราไฉน
          หริวงษทรงสวัสดิเอื้อนโองการ ตอบเฮย
เรานรายน์อวตารปราบหล้า
ท่านเสียสัตยสาบาลต่อมหิ ศวรแฮ
ครั้งรับดาราท้าโทษต้องจำตาย
          เสร็จแสดงวรเกรียติด้วยฤทธิรงค์
กรสี่กุมสังขทรงจักรแก้ว
พาลีเหลือบเหนองค์ออกโอฐ อกเอย
จำละชีพจำแคล้วคลาศด้วยสาบสรร
          ออกปากฝากอนุชทั้งนัดดา
องคตอีกดาราเพื่อนไร้
จงพระโปรดกรุณาอนุเคราะห์ ผดุงแฮ
ทั้งสี่ขอถวายใต้บทเบื้องบาทมูล
          พระทรงสังเวศเอื้อนลดทัณฑ์
ฃอเลือดพอแมลงวันอิ่มท้อง
บวงสรวงเทพยสาตรพลันยกโทษ ท่านนา
จักส่งคืนนิเวศป้องปกเกล้าพลเมือง
          พาลีอัญชลิตแล้วทูลถวาย เหตุแฮ
คมสาตรพาดกายอายเทพไท้
ถึงกรรมหากจาตายดีกว่า คงเอย
เสียชีพชูชื่อไว้ชั่วฟ้าดินชม
          ทูลเสรจสู่อนุชแล้วโศกา
โอฐอ่อนสอนอนุชาชอบด้วย
ตามแบบราชวัตรานุวัตร สิ้นเอย
เสรจสั่งวางศรม้วยชีพเมื้อพิมานแมน
          สุครีพกอดศพกลิ้งเกลือกดู อนาถแฮ
ข่าวทราบดาราพธูรีบเต้า
องคตอีกชมภูพานพวก สนมนา
โดยด่วนสู่ศพเศ้ราโศกแส้สนั่นเสียง

จบห้องที่ ๒๖

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานพาสุครีพมาเฝ้าพระราม พระรามตรัสถามเหตุที่สุครีพจากบ้านเมืองไปอยู่ในป่า สุครีพจึงทูลความตั้งแต่ครั้งพาลีรบกับทรพี พาลีไม่กลับมาตามที่กำหนดนัด ตนจึงปิดปากถ้ำตามคำสั่งของพาลี แต่พาลีกลับขับไล่ตนออกจากเมือง และคราวที่ตนอาสาชะลอเขาพระสุเมรุให้ตรง พระอิศวรประทานนางดาราเป็นรางวัลฝากพาลีมาให้ แต่พาลีกลับครองนางไว้เสียเอง และทูลว่าพาลีผิดคำสัตย์ควรที่พระรามจะฆ่าเสีย พระรามจึงให้สุครีพไปล่อพาลีมาเพื่อจะได้สอบถามเหตุ สุครีพทูลว่าพาลีได้พรพระอิศวรมีฤทธิ์เดชแกล้วกล้า ใครต่อสู้ด้วยจะเสียกำลังไปกึ่งหนึ่ง พระรามเห็นสุครีพกลัวจึงบอกสุครีพว่าจะเอาน้ำสรงพระแสงศรรดให้เพื่อป้องกันตัว ฝ่ายหนุมานทูลพระรามว่าน้าทั้งสองจะรบกันก็สุดที่จะแก้ไขจึงขอทูลลา จากนั้นสุครีพก็พาพระรามและพระลักษณ์ไปเมืองขีดขิน พระรามรดน้ำสรงพระแสงศรให้สุครีพแล้ว สุครีพก็เหาะไปที่ปราสาทท้าพาลีออกมารบ พระรามเห็นทั้งสองเหมือนกันจนไม่อาจแผลงศรให้ไปต้องพาลีได้ จนกระทั่งสุครีพเพลี่ยงพล้ำถูกจับได้แต่พาลีสงสารไม่ฆ่า จึงจับสุครีพขว้างไปถึงขอบจักรวาล เมื่อสุครีพกลับมาก็พ้อพระรามว่าลวงตนให้ถูกพาลีฆ่า พระรามจึงบอกว่าทั้งสองเหมือนกันจนไม่อาจสังเกตได้ และผูกผ้าไว้ที่ข้อมือสุครีพให้ขึ้นไปรบกันอีก ครั้งนี้พระรามจำผ้าที่ผูกข้อมือสุครีพได้ จึงแผลงศรไปที่อกพาลี พาลีจับศรไว้แล้วลงมาต่อว่าพระรามเป็นนักบวชแต่มาลอบล้างชีวิต พระรามจึงบอกว่าตนเป็นพระนารายณ์อวตารมาปราบยุคเข็ญ และอ้างถึงพาลีเสียสัตย์ที่ให้ไว้แก่พระอิศวรมีโทษถึงตาย แล้วสำแดงฤทธิ์เป็นพระนารายณ์สี่กร พาลีเห็นแล้วก็รู้ตัวจำต้องตายตามคำสัตย์ แล้วทูลฝากสุครีพ องคต หนุมาน และนางดารา พระรามสงสารจึงขอให้พาลีสละเลือดเพียงให้แมลงวันกินอิ่มเพื่อล้างโทษและจะให้กลับไปครองเมืองต่อไป แต่พาลีทูลว่าคมศรต้องตัวเป็นรอยแผลจะเป็นที่อับอายแก่เทวดาทั้งหลาย จึงขอตายเพื่อรักษาคำสัตย์ให้ฟ้าดินสรรเสริญ แล้วสั่งสอนสุครีพให้ปฏิบัติราชการชอบด้วยราชประเพณี